การทดลองทางคลินิก

การเพิ่มระดับกลูโคสในพลาสมาภายหลังตอนกลางวัน ณ เวลา 0.5 ถึง 3 ชั่วโมงนั้นต่ำกว่าผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยเจ็ตอย่างเห็นได้ชัด (P<0.05)ระดับอินซูลินในพลาสมาภายหลังตอนกลางวันสูงกว่าผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยเจ็ตอย่างชัดเจน (P<0.05)พื้นที่ใต้เส้นกราฟกลูโคสในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยปากกาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยเจ็ต (P<0.01)ประสิทธิภาพของเครื่องฉีดอินซูลินเจ็ตในการรักษาผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 นั้นเหนือกว่าปากกาอินซูลินอย่างเห็นได้ชัดในการควบคุมระดับน้ำตาลในพลาสมาและอินซูลิน

การศึกษานี้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของเครื่องฉีดอินซูลินเจ็ตและปากกาอินซูลินในการรักษาผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวน 60 รายได้รับการรักษาด้วยอินซูลินที่ออกฤทธิ์เร็ว (อินซูลินปกติ) และอินซูลินแอนะล็อก (อินซูลินแอสปาร์ต) โดยใช้หัวฉีดเจ็ตและปากกาในรอบการทดสอบต่อเนื่อง 4 รอบวัดระดับน้ำตาลกลูโคสและอินซูลินในเลือดภายหลังตอนกลางวันในช่วงเวลาหนึ่งคำนวณพื้นที่ใต้เส้นโค้งของกลูโคสและอินซูลิน และเปรียบเทียบประสิทธิภาพของวิธีการฉีด 2 วิธีในการรักษาโรคเบาหวานการให้อินซูลินและอินซูลิน aspart แบบปกติโดยหัวฉีดเจ็ตแสดงให้เห็นว่าระดับกลูโคสในพลาสมาลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับการฉีดด้วยปากกา (P<0.05)การเพิ่มระดับกลูโคสในพลาสมาภายหลังตอนกลางวัน ณ เวลา 0.5 ถึง 3 ชั่วโมงนั้นต่ำกว่าผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยเจ็ตอย่างเห็นได้ชัด (P<0.05)ระดับอินซูลินในพลาสมาภายหลังตอนกลางวันสูงกว่าผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยเจ็ตอย่างชัดเจน (P<0.05)พื้นที่ใต้เส้นกราฟกลูโคสในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยปากกาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยเจ็ต (P<0.01)ประสิทธิภาพของเครื่องฉีดอินซูลินเจ็ตในการรักษาผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 นั้นเหนือกว่าปากกาอินซูลินอย่างเห็นได้ชัดในการควบคุมระดับน้ำตาลในพลาสมาและอินซูลินจากข้อมูลการทดลองพบว่าการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหารภายใน 2 ชั่วโมงด้วยเครื่องฉีดไร้เข็มดีกว่าวิธีการฉีดเข็มแบบเดิม